จากนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน

เมื่อวัน 11 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 ดำเนินการ
เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 สืบนครบาล ได้จับกุมตัว

นายประพัทธ์  อายุ 46 ปี ที่อยู่ ซอยเอกชัย 43/1 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน จังหวัดกรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1737/2567 ลงวันที่ 23 เม.ย. 67
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ลักทรัพย์เอาไปเสียซึ่งเอกสารในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด”
.
จับกุมได้ที่ บริเวณป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต ทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
.
พฤติการณ์ตามวันเวลาที่เกิดเหตุผู้เสียหายได้ใช้บัตรเดบิตกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มภายในห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ และได้ลืมบัตรเดบิตไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม หลังจากนั้นได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือแจ้งว่ามีการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเดบิตของผู้แจ้ง ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งหลายครั้งรวมเป็นเงินกว่า 10,000 บาท ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
.
ตรวจสอบประวัติคดีของผู้ต้องหา มีดังนี้
ปี 2559 ข้อหา ” ลักทรัพย์ ”
ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ สืบสวน สน.พญาไท จับกุมดำเนินคดี (ผู้ต้องหาได้ทำการประกันตัวในชั้นสอบสวน และได้ทำการหลบหนีหลังจากประกันตัว)
– ปี 2563 ข้อหา ” ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ”
ถูกจับกุมโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬา และได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
จากการสอบถามปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ผู้ต้องหาจะตระเวนไปตามตู้เอทีเอ็มในสถานที่ต่างๆเช่นถนนข้าวสาร ประตูน้ำ หรือสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นจะหาบัตรเดบิตที่ผู้เสียหายลืมไว้ที่ตู้เอทีเอ็มและเอาไปใช้ซื้อบุหรี่เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยผู้ต้องหารับ ว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะได้เงินประมาณ 10,000 บาท และได้ก่อเหตุครั้งล่าสุดช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาผลการตรวจค้นพบบุหรี่พร้อมจำหน่ายกว่า 50 ซอง อยู่ในห้องพักของผู้ต้องหาจึงทำการตรวจยึดและนำส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท เพื่อดำเนินการต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนประชาชน สมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ โดยเฉพาะเรื่องเงินทองๆ อีกทั้งยังมีคนไม่น้อยที่มักจะใช้วิธีลัดในการหาเงินด้วยการเป็นมิจฉาชีพ ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าถูกขโมยบัตรเดบิตสิ่งแรกที่ควรทำคือโทรอายัติบัตรเอทีเอ็มกับธนาคารเจ้าของบัตร พร้อมตรวจสอบยอดเงินในบัตรว่าถูกกดออกไปหรือไม่ และแจ้งความเพื่อเอาผิดกับคนร้าย หากเป็นคนใกล้ตัวหรือคนในครอบครัวก็ควรสอบถามวัตถุประสงค์และอยู่ที่ดุลพินิจเจ้าของเงินอีกครั้ง
.