หัวหน้าพรรคประชาชนลงพื้นที่ “โคกตาด” รับฟังข้อมูลชี้แนวเขตที่สาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ตำบลป่าเลา จังหวัดเพชรบูรณ์
เพชรบูรณ์ – วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมโฮมแลนด์รีสอร์ต อำเภอเมืองฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมคณะทำงาน ได้ลงพื้นที่ติดตามและรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินสาธารณประโยชน์แปลง “โคกตาด” ทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะในเขตตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ตรงในการใช้ประโยชน์ร่วมกันในทุ่งเลี้ยงสัตว์แห่งนี้มานานหลายสิบปี เพื่อประกอบการพิจารณาและผลักดันการอนุรักษ์พื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ของชุมชนอย่างยั่งยืน
โดยมีจุดชี้เขต 4 ทิศของแปลง “โคกตาด”ได้รับการชี้ทิศและอาณาเขตอย่างชัดเจนโดยชาวบ้านและผู้สูงอายุในชุมชน โดยแบ่งออกเป็น 4 ทิศหลัก ได้แก่ ทิศตะวันออก จดโคกน้อย บริเวณลานจอดรถห้างโกลบอล หมู่ที่ 12 ตำบลนางั่ว ทิศเหนือ จดหลักเขตกึ่งกลางอ่างเก็บน้ำห้วยสะพานขาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวบ้านที่เลี้ยงวัว ทิศตะวันตก จดโคกคอบแคบ ซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองคอบแคบ ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก และทิศใต้ จดโคกหนองหอย ติดกับหนองนารี หนองน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ในการเลี้ยงวัว
โดยมีผู้สูงอายุร่วมชี้ทิศ-ยืนยันประวัติการใช้พื้นที่ และหลายรายที่มีประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงวัวฝูงในพื้นที่ “โคกตาด” มานานหลายสิบปี ได้ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของพื้นที่ อาทิ นายพิง คุ้มศรี อายุ 86 ปี เลี้ยงวัวฝูงตั้งแต่ปี 2494
นายบ่าย สุกเมือง อายุ 71 ปี และนายบุญเลิศ จิตต์จำนงค์ อายุ 61 ปี เลี้ยงวัวฝูงต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี นายหมุน สุขเมือง อายุ 72 ปี นางยิ้ม และนายแขก แก้วบาง ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2
นอกจากนี้ ยังมีอดีตผู้นำชุมชนในตำบลป่าเลาหลายรายที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เช่น นายฟื้น เกตุแฟง อดีตกำนันและประธานสภาตำบลป่าเลา, นายใจ ธรรมะ อดีตผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนัน ฯลฯ ได้ร่วมยืนยันแนวเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าว
ทั้งนี้ยังมีจุดสังเกตสำคัญเชิงกายภาพ อย่างเช่นถนนทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี–หล่มสัก) พาดผ่านกลางพื้นที่ และมีการต้อนวัวข้ามถนนเป็นกิจวัตร ตั้งแต่ก่อนถนนลาดยางในปี 2514 เสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ตั้งเรียงรายพาดผ่านพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2530 ตามหลักฐานข้อตกลงกับสภาตำบล และถนนสายเลี่ยงเมือง (บายพาส) ทางหลวงหมายเลข 234 ซึ่งตัดผ่านแปลงโคกตาด ตั้งแต่ปี 2537-2538
นายณรงเดช อุฬารกุล ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่วมลงพื้นที่ด้วย ได้เน้นย้ำว่า “กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างของความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่มักตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คณะกรรมาธิการจะเร่งบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีก”
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า การอนุรักษ์พื้นที่สาธารณะให้คนรุ่นหลังยังสามารถใช้ประโยชน์ได้คือเป้าหมายสำคัญ พรรคพร้อมสนับสนุนให้เกิดความชัดเจนในเขตแดน และผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันการบุกรุกและการใช้ประโยชน์โดยมิชอบในอนาคต
“โคกตาดไม่ใช่เพียงที่ดิน แต่คือประวัติศาสตร์ ความทรงจำ และวิถีชีวิตของคนเลี้ยงวัวที่ดำรงอยู่มายาวนาน” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวสรุป.
