ศึกเขต 4 เพชรบูรณ์เดือด! หลายพรรคส่งตัวลงชน – “โชคชัย มั่นเติม” คนธรรมดาท้าชนทุนการเมือง เดินเท้าเข้าสนามด้วยหัวใจล้วน

เพชรบูรณ์ – สนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดเพชรบูรณ์ ร้อนระอุตั้งแต่ยังไม่เปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ หลังหลายพรรคการเมืองใหญ่–กลาง–ใหม่ ต่างส่งผู้สมัครลงชิงชัยอย่างพร้อมเพรียง สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดและเข้มข้นที่สุดอีกหนึ่งพื้นที่ของจังหวัด

รายชื่อผู้ท้าชิงในเขต 4 ประกอบด้วย

นายวรโชต สุคนขจร อดีต ส.ส. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในนามพรรคภูมิใจไทย

นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ในนามพรรคเพื่อไทย

นายทองมา ทองอ่ำ พรรคโอกาสใหม่

ทนายธนภาค บุ้งจันทร์ พรรคเศรษฐกิจ

นายพรหมธาดา วิเศษสิงห์ พรรคประชาชน

นายเกรียงศักดิ์ ศรีวงศ์ราช พรรคพลังประชารัฐ

และ นายโชคชัย มั่นเติม ว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ ในนามพรรคประชากรไทย

ทั้งหมดเตรียมยื่นใบสมัครในระหว่างวันที่ 27–31 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่ง กกต.ประกาศให้เป็นสถานที่รับสมัครอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางผู้สมัครที่มีชื่อเสียง ฐานการเมือง และต้นทุนทางอำนาจ “โชคชัย มั่นเติม” กลับกลายเป็นชื่อที่ถูกจับตาในฐานะ ผู้สมัครสายลุย คนธรรมดา ที่เลือกเดินเข้าสนามด้วยสองเท้าและหัวใจ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 น. นายโชคชัย มั่นเติม ได้ร่วมขบวนแห่เปียงานงิ้วองค์เจ้าพ่อนาเฉลียง ประจำปี 2568 พร้อมถือโอกาสลงพื้นที่แนะนำตัวกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เช้าตรู่โดยไม่ใช้เวทีใหญ่หรือกระแสโซเชียลนำหน้า

นายโชคชัย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า

“ผมกราบขออาสาทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคน ในนามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 4 ขอเพียงโอกาสให้ผมได้เป็นปากเป็นเสียง สะท้อนปัญหาความเดือดร้อน และร่วมพัฒนาบ้านเกิดของเราให้ดีขึ้น”

ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคประชากรไทยรายนี้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การลงสนามครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ผมรู้ดีว่าโอกาสมีไม่มาก ผมไม่ใช่คนดัง ไม่มีฐานอำนาจ ไม่มีต้นทุน แต่ผมมีหัวใจ มีความตั้งใจ และมีสองเท้าที่พร้อมเดินเข้าหาประชาชน ทุกคะแนนที่ได้จะเป็นคะแนนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์”

การเคลื่อนไหวของ “โชคชัย มั่นเติม” สะท้อนภาพการเมืองอีกด้านหนึ่งของเขต 4 เพชรบูรณ์ ที่ไม่ได้มีเพียงการชนกันของทุนและอำนาจ แต่ยังมีคนธรรมดาที่เลือกสู้ด้วยอุดมการณ์ ความศรัทธา และความหวังว่าจะได้เปลี่ยนแปลงบ้านเกิดจากรากฐาน

ศึกเลือกตั้งเขต 4 เพชรบูรณ์ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การแข่งขันของพรรคการเมือง แต่คือบทพิสูจน์ว่า เสียงของประชาชน จะเลือก “ชื่อ” หรือ “หัวใจ” เป็นผู้แทนในสภา