พรรคประชากรไทยเปิดตัวสู้ศึกเลือกตั้ง 2569 – “โชคชัย มั่นเติม” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 4 ชูการเมืองอุดมการณ์ ท้าทายสนามผูกขาดเพชรบูรณ์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2568 ณ ที่ทำการพรรคประชากรไทย นายโชคชัย มั่นเติม ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคประชากรไทย เข้าร่วมงานแถลงนโยบายเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปต้นปี 2569 ภายใต้แนวคิด “ผ่าตัดประเทศด้วย 4 เสาหลัก (4C)” พลิกฟื้นประเทศไทยจากฐานรากสู่ระดับชาติ
การแถลงครั้งนี้ พรรคประชากรไทยประกาศความพร้อมเต็มรูปแบบ ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้ง 3 คน ได้แก่ ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรค, พล.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง ประธานยุทธศาสตร์พรรค และนายสุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศักดิ์ พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. รวม 261 คนทั่วประเทศ
ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทย ยืนยันกระแสข่าวการ “ขายพรรค” หรือ “เปลี่ยนชื่อพรรค” ไม่เป็นความจริง พร้อมประกาศชัด พรรคประชากรไทยกลับคืนสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้ง ภายใต้การนำของตนเอง ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นคนที่ 3 และสมัยที่ 5 โดยชูนโยบาย 4 เสาหลัก ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศ ควบคู่พันธกิจ “การเมืองโปร่งใส บ้านเมืองปลอดภัย คนไทยอยู่ดีกินดี”
นโยบายสำคัญที่ได้รับความสนใจ อาทิ เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ประเทศขาดแคลนแรงงาน, ปรับระบบเกณฑ์ทหารเป็นสมัครใจ 100% มีเงินเดือนขั้นต่ำ 12,000 บาท, ยกระดับภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและ AI, จัดตั้งศาลจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันโดยไม่ให้มีอายุความ
ด้าน พล.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง ประธานยุทธศาสตร์พรรคประชากรไทย ย้ำว่าทุกนโยบายสามารถทำได้จริง พรรคอาจเงียบไปในช่วงที่ผ่านมา แต่วันนี้กลับมาอย่างมั่นใจ พร้อมเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน และมีศักยภาพเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้อุดมการณ์ “เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” ยึดมั่นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์ นายโชคชัย มั่นเติม ถือเป็นผู้สมัครที่น่าจับตาในเขต 4 แม้จะยอมรับว่าสนามการเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีการผูกขาดทางการเมืองยาวนานครบทั้ง 6 เขต แต่เลือกเดินบนเส้นทาง “การเมืองต้นทุนต่ำ” ไม่พึ่งทุนใหญ่ ไม่พึ่งอิทธิพล ใช้ความตั้งใจ ความซื่อสัตย์ และการลงพื้นที่พบประชาชนเป็นหลัก
นายโชคชัย ระบุว่า การเมืองไม่ควรเป็นเรื่องของคนมีเงินหรือกลุ่มอำนาจเท่านั้น แต่ควรเป็นพื้นที่ของคนธรรมดาที่กล้าลุกขึ้นมารับใช้บ้านเกิด พร้อมย้ำว่า แม้จะรู้ว่าสนามนี้ไม่ง่าย แต่เชื่อว่าหากประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่ตรงไปตรงมา และผู้แทนที่กล้ายืนข้างประชาชนจริง ๆ คะแนนเสียงจะเป็นคำตอบที่ทรงพลังที่สุด
การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชากรไทยจึงไม่ได้เพียงส่งผู้สมัคร แต่ส่ง “ความหวัง” ให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะเดินต่อบนเส้นทางเดิม หรือเปิดโอกาสให้การเมืองทางเลือกได้พิสูจน์ตัวเองในสนามจริง












