เพชรบูรณ์ – กกต. เปิดโครงการอบรมสร้างพรรคการเมืองคุณภาพ เสริมความรู้ประชาธิปไตยภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. ณ โรงแรมบูรพา โฮเต็ล อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีเปิด “โครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อสร้างพรรคการเมืองคุณภาพ” โดยมีนายสุวิทย์ ศรีวงษา ผู้ตรวจราชการเขตตรวจราชการที่ 10 เป็นประธานเปิดงาน และบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การมีส่วนร่วมของพลเมือง” ขณะที่นางสาวพูนศรี สุขเสวก ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานต่อประธานและผู้เข้าร่วมอบรม
การจัดโครงการครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งมุ่งหมายให้พรรคการเมืองที่ได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองต้องดำเนินกิจกรรมที่เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน และการพัฒนาพรรคการเมืองให้เข้มแข็งเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง
สำนักงาน กกต. โดยสำนักบริหารกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ได้จัดทำหลักสูตร “พรรคการเมืองคุณภาพ” เพื่อส่งเสริมบทบาทของพรรคการเมืองในระดับพื้นที่ โดยมอบหมายให้สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่กลุ่มเป้าหมายซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด สมาชิกพรรคการเมือง และประชาชนทั่วไป
สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจุบันมีสาขาพรรคการเมืองจำนวน 10 สาขา และมีตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดรวม 8 ตัวแทน โดยการอบรมในครั้งนี้ถือเป็นรุ่นที่ 1 มีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้นจำนวน 110 คน โดยภายในหลักสูตรประกอบด้วยวิชาสำคัญ 3 รายวิชา ได้แก่
1. การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. การเป็นพลเมืองคุณภาพ
3. การมีส่วนร่วมทางการเมืองของพลเมืองคุณภาพ
ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรม เพื่อวัดผลการเรียนรู้ และสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอด ขยายผลในพื้นที่ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างพรรคการเมืองไทยให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ภายใต้กรอบของกฎหมายและความยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของระบอบการปกครองไทย