ศึกเดือดเขต 2 เพชรบูรณ์! “วงศ์วิศว์ ผลลอย” เปิดเกมชนบ้านใหญ่ พปชร.งัดยุทธศาสตร์ใหม่ทวงพื้นที่คืน
เพชรบูรณ์ – การเมืองเพชรบูรณ์เริ่มเดือดตั้งแต่ยังไม่เปิดสนามเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 ในการประชุมแต่งตั้งตัวแทนจังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ณ บ้านเลขที่ 134/4 หมู่ 3 ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ นายวงศ์วิศว์ ผลลอย ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เปิดใจต่อสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับว่า “เขต 2 คือสมรภูมิศึกช้างชนช้างของจริง”
นายวงศ์วิศว์ ระบุว่า พื้นที่เขต 2 กำลังเผชิญการปะทะกันของสองตระกูลการเมืองใหญ่ ระหว่างสายของนายจักรัตน์ พั้วช่วย อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์หลายสมัย ซึ่งปัจจุบันเลือกเดินเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรม ภายใต้การคุมเกมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับฝั่งบ้านใหญ่ที่หันไปจับมือกับนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ ที่ย้ายจากพรรคประชาธิปัต มาสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย เพื่อรักษาฐานที่นั่ง ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์ให้ครบทั้ง 6 เขต
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยกวาดที่นั่ง ส.ส.เพชรบูรณ์มาแล้วทั้งจังหวัด กลับต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ เมื่อพื้นที่ถูกแบ่งไปอยู่กับพรรคกล้าธรรม 1 เขต และพรรคภูมิใจไทยถึง 5 เขต ส่งผลให้พลังประชารัฐต้อง “ปรับแผนรบ” ครั้งสำคัญ ด้วยการส่งนายวงศ์วิศว์ ผลลอย ลงชิงชัยในเขต 2 อย่างเป็นทางการ
นายวงศ์วิศว์ ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายใต้แนวคิด “ทหารเป็นหัวหน้าพรรค แก่แต่ประสบการณ์สูง” พร้อมชูสโลแกน “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส” เป็นหัวใจในการสื่อสารกับประชาชน
“ผมขอฝากตัวในฐานะคนพื้นที่จริง ทำงานกับชุมชนมาโดยตลอด พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนเขต 2 เพชรบูรณ์ ในนามพรรคพลังประชารัฐ” นายวงศ์วิศว์ กล่าว
สำหรับประวัติทางการเมือง นายวงศ์วิศว์ ผลลอย เป็นนักธุรกิจในพื้นที่ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำชุน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลน้ำชุน รักษาการกำนันตำบลน้ำชุน เป็นประธานเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ และกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งเคยลงสมัคร ส.ส. พรรคเสรีรวมไทย เคยเป็นผู้ช่วย ส.ส. พรรคเสรีรวมไทย รองหัวหน้าพรรคประชากรไทย รองหัวหน้าพรรคราชวิถี และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาพรรคทางเลือกใหม่
การขยับหมากของพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ ถูกจับตาว่าอาจทำให้ “สมดุลอำนาจการเมืองเพชรบูรณ์” เปลี่ยนอีกครั้ง โดยเฉพาะในเขต 2 ที่ถูกมองว่าเป็นสนามวัดพลังตัวจริงของศึกเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้








