ไฟฟ้าขัดข้องครั้งใหญ่! โรงพยาบาลวังโป่งประกาศเหตุฉุกเฉิน ย้ายผู้ป่วยกลางดึกกว่า 30 ราย หลังหลอดไฟระเบิดทั่วตึก
เพชรบูรณ์ – เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ได้เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องครั้งใหญ่ภายใน โรงพยาบาลวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้หลอดไฟในตึกอำนวยการและตึกผู้ป่วยระเบิดเกือบทั้งหมด พร้อมกลิ่นไหม้ลอยคลุ้งทั่วอาคาร ส่งผลให้ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยเกิดความตื่นตกใจอย่างมาก จนโรงพยาบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและดำเนินการอพยพผู้ป่วยออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน
โดยทางโรงพยาบาลได้ประสานขอความช่วยเหลือจาก สมาคมกู้ชีพ–กู้ภัยวังโป่งรวมใจ และสมาคมกู้ชีพ–กู้ภัยชนแดนสงเคราะห์ ระดมกำลังกว่า 50 นาย เข้าดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดออกจากอาคาร ซึ่งมีผู้ป่วยวิกฤติ 5 ราย ต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลชนแดน ส่วนผู้ป่วยทั่วไปกว่า 30 ราย ถูกย้ายไปพักรักษาชั่วคราวภายในหอประชุมของโรงพยาบาล ท่ามกลางแสงไฟจากรถยนต์ของญาติผู้ป่วยและเครื่องปั่นไฟขนาดเล็กของอาสากู้ภัย โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
จากการสอบถามพยานในเหตุการณ์ทราบว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. ไฟฟ้าภายในอาคารมีอาการติดๆ ดับๆ ต่อเนื่องนานเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะเกิดกระแสไฟกระพริบอย่างแรง หลอดไฟและกล้องวงจรปิดภายในอาคารเริ่มไหม้และระเบิดทีละจุด พร้อมกลิ่นไหม้ชัดเจนทั่วบริเวณ จากนั้นไฟฟ้าดับสนิททั้งสองอาคาร ทำให้ต้องประกาศแผนอพยพฉุกเฉินทันที
ด้าน นายแพทย์จีรยุทธ ใจเขียนดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังโป่ง เปิดเผยว่า สัญญาณไฟเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ช่วงบ่ายสองของวันเกิดเหตุ โดยมีอาการไฟตกและดับบ่อยครั้ง จนกระทั่งเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือทางการแพทย์เริ่มระเบิด ทำให้จำเป็นต้องตัดระบบไฟทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
“เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วพบว่าไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย จึงประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อเร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักไปยังโรงพยาบาลชนแดน ส่วนผู้ป่วยที่อาการปกติได้ให้กลับบ้านราว 10 ราย และย้ายผู้ป่วยที่ต้องดูแลต่ออีก 8 ราย ไปยังอาคารสำรองของโรงพยาบาล” ผู้อำนวยการฯ กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้าดำเนินการกู้ระบบไฟตั้งแต่กลางดึกจนถึงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 23 ตุลาคม โดยสามารถจ่ายไฟกลับมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ขณะนี้ตึกอุบัติเหตุ–ฉุกเฉินยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ และต้องส่งต่อผู้ป่วยบางส่วนไปยัง โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และ โรงพยาบาลทับคล้อ จังหวัดพิจิตร
สำหรับความเสียหายเบื้องต้น มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศจำนวนมากได้รับความเสียหาย รวมถึงอาคารอีกหนึ่งหลังที่ยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ ขณะเดียวกันพบว่า เครื่องปั่นไฟสำรองของโรงพยาบาลอาจเป็นสาเหตุหลักของระบบไฟฟ้าขัดข้องในครั้งนี้ ซึ่งจะต้องรอให้บริษัทเข้าตรวจสอบในช่วงบ่าย คาดว่าจะใช้เวลา 2–3 วันในการหาสาเหตุที่แท้จริง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยืนยันว่า ระบบเซิร์ฟเวอร์และฐานข้อมูลคนไข้ไม่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้สามารถเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตและข้อมูลผู้ป่วยได้ตามปกติ พร้อมเร่งซ่อมแซมอาคารและอุปกรณ์ เพื่อกลับมาให้บริการประชาชนโดยเร็วที่สุด.











