“สหพันธ์สื่อมวลชนอาเซียน” รวมพลังสื่อไทย-กัมพูชา หวังลดความขัดแย้งชายแดน เสริมสัมพันธ์ประชาคมอาเซียน

สระแก้ว — วันที่ 20 มิถุนายน 2568 นายบรรหาร บุญเขต ประธานเครือข่ายการเมืองวิถีใหม่ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย และหนึ่งในคณะกรรมการ The Union Media of ASEAN (UMA) หรือ “สหพันธ์สื่อมวลชนอาเซียน” เข้าร่วมการประชุมระหว่างสื่อมวลชนไทย-กัมพูชา ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้แทนสื่อจากกัมพูชาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และลดทอนความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้มีข้อพิพาทตามแนวชายแดนที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองฝั่ง

นายประสิทธิ์ แสงรุ่งเรือง เลขาธิการสหพันธ์สื่อมวลชนอาเซียน ฝ่ายไทย กล่าวว่า องค์กร UMA ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้มีประสบการณ์รายงานข่าวสงคราม เพื่อต้องการใช้บทบาทของสื่อเป็นตัวกลางคลี่คลายความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจอย่างตรงไปตรงมา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์และปราศจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยที่ผ่านมา UMA มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาความขัดแย้งหลายกรณีระหว่างไทย-กัมพูชา

“สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่อย่างมีสติ รอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจ และลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนี้” นายประสิทธิ์ กล่าว

ด้านนายชก สุวรรณ์ เลขาธิการ UMA ฝ่ายกัมพูชา กล่าวว่า ความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีต้นตอมาจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน และการรายงานข่าวที่ขาดความถูกต้องและสมดุล ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังกันโดยไม่จำเป็น และบางครั้งบานปลายจนเกิดการปะทะกันระหว่างกำลังทหาร

“องค์กร UMA จึงมีบทบาทสำคัญในฐานะเครือข่ายภาคประชาสังคม ที่ทำงานเพื่อสันติภาพ โดยใช้ความร่วมมือระหว่างสื่อสองประเทศเป็นสะพานเชื่อมโยง สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชน” นายชก กล่าว

ทั้งนี้ UMA เคยมีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายวิกฤติหลายกรณีในอดีต เช่น กรณีแรงงานกัมพูชาหลายแสนคนตื่นตระหนีออกนอกประเทศ รวมถึงข้อพิพาทชายแดนในหลายช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา

เมื่อประชาคมอาเซียนกำลังเข้าสู่การรวมตัวอย่างเข้มแข็งบนเวทีโลก โดยมีเสาหลัก 3 เสา ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรม นายชกชี้ว่า การรวมตัวของ UMA จะมีบทบาทสำคัญใน “เสาสังคม-วัฒนธรรม” ซึ่งยังขาดพลังจากภาคประชาสังคมที่แท้จริง

“UMA จะเป็นจุดเริ่มต้นของเครือข่ายภาคประชาสังคมที่มีบทบาทเชิงรุก เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชน และช่วยขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้มีเอกภาพและสันติภาพอย่างยั่งยืน” นายชก กล่าวทิ้งท้าย