เจ้าหน้าที่ กสทช.บุกค้น “ครัวลุงโทนี่” ยึดวิทยุสื่อสารเถื่อน 10 เครื่อง – เจ้าตัวอ้างไม่รู้ผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ท่าพล จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจค้นร้านอาหาร “ครัวลุงโทนี่” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังได้รับหมายศาลจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อเข้าตรวจสอบการใช้วิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต
การตรวจค้นนำโดยนายพัทธยา ไชยนาแพง ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมายและนิติการ สำนักงาน กสทช. ภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่รวมกว่า 10 นาย เข้าตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าวซึ่งเป็นของนายเจริญศักดิ์ โพธิ์ศรีชัย อายุ 48 ปี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ลุงโทนี่” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของเพจ “ครัวลุงโทนี่” ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากในโลกโซเชียล
จากการตรวจค้นภายในร้าน เจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสารสีดำจำนวน 10 เครื่อง ซึ่งไม่มีใบอนุญาตในการครอบครองและใช้งาน โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ฐานมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายเจริญศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของวิทยุสื่อสารดังกล่าวจริง โดยซื้อมาเพื่อใช้สื่อสารภายในร้านอาหารกับพนักงานเท่านั้น และยืนยันว่าไม่ทราบมาก่อนว่าการใช้งานจำเป็นต้องมีใบอนุญาต ทั้งยังระบุว่าไม่มีเจตนาแทรกแซงหรือรบกวนการสื่อสารของหน่วยงานราชการหรือเครือข่ายอื่น ๆ พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนแทนการดำเนินคดี เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ กสทช. ยืนยันว่า การกระทำความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ และได้ดำเนินการตรวจยึดเครื่องวิทยุสื่อสารทั้งหมด พร้อมเปรียบเทียบปรับนายเจริญศักดิ์ เป็นเงินจำนวน 11,000 บาท และริบของกลางไว้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการ นายเจริญศักดิ์ หรือ “ลุงโทนี่” ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน โดยฝากเตือนประชาชนทั่วไปและแฟนคลับที่ติดตามตนว่า การใช้วิทยุสื่อสารเครื่องสีดำจำเป็นต้องมีใบอนุญาตจาก กสทช. ทั้งในส่วนของการครอบครองและการใช้งาน พร้อมแนะนำผู้มีความจำเป็นต้องใช้งานวิทยุสื่อสาร ให้เลือกใช้เครื่องสีแดงแทน เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ใช้ในความถี่สาธารณะโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต
“อยากให้กรณีของผมเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ไม่รู้ ให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่มีเจตนาจะทำผิดเลยครับ แค่ไม่รู้จริง ๆ” ลุงโทนี่กล่าวทิ้งท้าย.