“ร็อคเมาเทน” หลังเวทีเงียบ ขยะกว่าตันฝังกลบบนเขาค้อ – สื่อท้องถิ่นลงพื้นที่พบเป็นที่เอกชน หน่วยงานรัฐยังไม่ขยับตรวจสอบ
เพชรบูรณ์ – ผู้สื่อข่าวติดตามการจัดเก็บและการทิ้งขยะหลังเสร็จสิ้นงานคอนเสิร์ต “ร็อคเมาเทน” ที่จัดขึ้นในเขตอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีผู้เข้าชมหลายหมื่นคนต่อคืน พบว่าหลังเวทีเงียบลง ขยะจำนวนมหาศาลกว่า 1–2 ตัน ถูกขนย้ายไปทิ้งและฝังกลบในพื้นที่เอกชนแห่งหนึ่งในเขต ตำบลแคมป์สน โดยมีเจ้าของที่ดินยินยอมให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดทิ้งขยะ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีหน่วยงานรัฐใดเข้าตรวจสอบหรือรับทราบการดำเนินการดังกล่าว ขณะที่ชาวบ้านและสื่อมวลชนท้องถิ่นแสดงความกังวลต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
การจัดคอนเสิร์ตร็อคเมาเทนในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก สร้างรายได้ให้ร้านอาหาร โรงแรม และผู้ค้าท้องถิ่นอย่างมหาศาล แต่หลังงานสิ้นสุดลงกลับเหลือขยะจำนวนมาก ทั้งขวดน้ำ พลาสติก กล่องโฟม และเศษวัสดุจากเวที
ผู้สื่อข่าวได้ขับรถติดตามเส้นทางการเก็บขยะหลังงานจบ พบว่ารถบรรทุกขยะถูกนำไปเทในพื้นที่เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแปลงที่ดินอยู่ในเขตตำบลแคมป์สน โดยเจ้าของที่ยินยอมให้ใช้เป็น “หลุมฝังกลบชั่วคราว”
จากการสังเกตพบว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่มีระบบป้องกันน้ำชะขยะหรือบ่อปูนกันรั่วซึม และอยู่ในรัศมีใกล้เขตต้นน้ำของเขาค้อ ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำและดินได้ในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นที่ติดตามเรื่องนี้เผยว่า มีความพยายาม “บิดเบือน” ว่าสื่อเสนอข่าวในเชิงลบเพราะไม่ได้รับบัตรเข้าชมคอนเสิร์ต แต่ในความจริงแล้ว จุดยืนของสื่อคือ “การตรวจสอบเพื่อปกป้องประโยชน์ของพื้นที่เขาค้อ”
“เราไม่ต่อต้านความบันเทิง แต่เราอยากให้ผู้จัดงานมีแผนจัดการขยะที่ชัดเจนและโปร่งใส เพราะเขาค้อเป็นเขตท่องเที่ยวและต้นน้ำ ถ้าขยะถูกฝังกลบโดยไม่มีระบบรองรับ วันหนึ่งผลกระทบจะย้อนกลับมาหาทุกคน”
ผู้สื่อข่าวภาคสนาม กล่าว แม้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เอกชน แต่ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 ระบุชัดว่า “ห้ามมิให้บุคคลใดฝังกลบหรือทิ้งมูลฝอยในที่ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
ดังนั้น หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลแคมป์สน, สาธารณสุขอำเภอเขาค้อ, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ (ทสจ.)
ควรเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า การฝังกลบดังกล่าวได้รับอนุญาตหรือไม่ มีระบบควบคุมผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ มีการขนย้ายขยะไปกำจัดในศูนย์กำจัดขยะของจังหวัดเพชรบูรณ์ตามขั้นตอนหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย และหน่วยงานมีอำนาจออกคำสั่ง ให้ยุติการฝังกลบและดำเนินการขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ ดังนั้นรัฐควรกำหนดแนวทางจัดการกิจกรรมขนาดใหญ่ในเขตท่องเที่ยวอย่างเขาค้อให้ชัดเจน เช่น กำหนดให้ผู้จัดงานทุกงานต้องจัดทำ “แผนบริหารจัดการขยะ (Waste Management Plan)” ก่อนขออนุญาตจัดกิจกรรม ห้ามนำขยะไปฝังกลบในพื้นที่เอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาต
ตั้งจุดรวบรวมและคัดแยกขยะรีไซเคิลร่วมกับท้องถิ่น และประกาศให้เขตเขาค้อเป็น “พื้นที่ท่องเที่ยวปลอดขยะ” เพื่อคุ้มครองทรัพยากรระยะยาว
งานคอนเสิร์ตอาจสร้างความสุขให้ผู้คนและรายได้ให้ชุมชน แต่ขยะที่เหลืออยู่ต้องไม่กลายเป็น “รอยแผลบนแผ่นดินเขาค้อ” ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า หากรัฐยังไม่กำหนดแนวทางหรือมาตรฐานที่ชัดเจน การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ในอนาคตอาจนำมาซึ่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่แก้ไขยาก “ความสุขชั่วคืน” ไม่ควรแลกกับ “มลพิษยาวนาน”เขาค้อควรได้รับการปกป้องในฐานะเมืองท่องเที่ยวต้นแบบที่สวยงามและสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
(ภาพโดย: ทีมข่าวสมาพันธ์สื่อมวลชนเพชรบูรณ์)










