ปมพิพาทร้าวลึก “วัดโรงบ่ม – สำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอู” จบไม่ลง เสื่อมภาพลักษณ์พระพุทธศาสนา

เพชรบูรณ์ – เกิดเหตุขัดแย้งยืดเยื้อระหว่างวัดโรงบ่ม ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ กับกลุ่มผู้ศรัทธาในสำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอู หลังวัดได้ให้เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมศาลเจ้า แต่ภายหลังกลับเกิดกรณีไม่โปร่งใสหลายประการ จนนำไปสู่การฟ้องร้องและคำสั่งศาลให้ยุติกิจกรรมภายในวัด

ต้นเหตุความขัดแย้งเริ่มต้นเมื่อสำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอูได้เช่าพื้นที่ภายในวัดโรงบ่มเพื่อจัดกิจกรรมทางศาสนาในรูปแบบจีน แต่กลับมีการโฆษณาแจกของรางวัล รวมถึงเช็คเงินสดตั้งแต่หลักแสนถึงหนึ่งล้านบาท พร้อมนำรถยนต์หลายยี่ห้อมาแสดงโชว์ในงาน และเปิดให้ประชาชนร่วมลงทะเบียนรับซิมการ์ดเพื่อแลกโทรศัพท์มือถือในวันถัดไป

อย่างไรก็ตาม หลังงานจบลงกลับไม่มีประชาชนคนใดได้รับเงินสด รถยนต์ หรือโทรศัพท์ตามที่มีการประชาสัมพันธ์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชื่อเสียงของวัดและความเชื่อมั่นของชุมชน คณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรจึงมีมติยกเลิกสัญญาการใช้พื้นที่ดังกล่าว

แต่ทางฝั่งสำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอูกลับไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ และได้ยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมดภายในวัดโรงบ่มโดยเด็ดขาด

แม้จะถูกห้ามใช้งานภายในวัด สำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอูยังคงประกอบกิจกรรมต่อโดยไปเช่าพื้นที่บริเวณข้างวัด และได้จัดงานแห่ช้างจากจังหวัดสุรินทร์ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีหน่วยงานราชการเข้าร่วม แต่กลับตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีข้อร้องเรียนว่าทางผู้จัดไม่ได้จ่ายค่าช้างตามที่ตกลงกับเจ้าของ ทำให้กลายเป็นข่าวเสียหายซ้ำเติมสถานการณ์

ล่าสุด ทางคณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรได้มีคำขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างถาวรของสำนักโรงเจฯ ที่ยังคงตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เนื่องจากยังมีกลุ่มลูกศิษย์มาใช้พื้นที่จัดกิจกรรม ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นกิจกรรมที่จัดโดยวัด และไม่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติในพระพุทธศาสนา

ทางวัดจึงได้ดำเนินการว่าจ้างรถแบ็กโฮมารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวด้วยตนเอง แต่กลับถูกต่อต้านจากกลุ่มลูกศิษย์ของสำนักโรงเจฯ จนเกิดเหตุวุ่นวายและถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนในเชิงเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของวัดโรงบ่ม

เหตุการณ์ทั้งหมดกลายเป็นเรื่อง “โอละพ่อ” สะท้อนถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน ซึ่งเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แต่กลับต้องเผชิญความขัดแย้งจากกิจกรรมที่ไม่โปร่งใสของกลุ่มบุคคลหนึ่ง จนกระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

ฝ่ายวัดโรงบ่มยังยืนยันเจตนารมณ์ในการทวงคืนพื้นที่เพื่อความสงบร่มเย็นของวัด และไม่ต้องการให้กิจกรรมใดที่บิดเบือนคำสอนพุทธศาสนาเข้ามาแอบอ้างโดยใช้พื้นที่วัดเป็นฉากหน้า ขณะที่กลุ่มผู้ศรัทธาสำนักโรงเจเจ้าพ่อกวนอูยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่องภายใต้เครื่องแบบลูกศิษย์ โดยมีการจัดกิจกรรมบางอย่างในพื้นที่รอบวัด ซึ่งทางวัดเห็นว่าอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว

สถานการณ์ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยแก้ปัญหา เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของศาสนสถาน และความสงบสุขของชุมชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป.