อดีตครูบำนาญฟ้องศาล ถูกบุกรุกที่ดินทำนา อ้างสร้าง “เหมืองสาธารณะ” ซ้ำรอยรังวัดซ้อนซ้ำ

เพชรบูรณ์ — วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นางเพลินพิศ ประดับมุข อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญ ชาวอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางเข้าพบนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ หรือ “ทนายอ้วน” ทนายอาสาประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแต่งตั้งเป็นทนายความดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดวิเชียรบุรี หลังเกิดกรณีบุคคลในพื้นที่ข้างเคียงเข้าบุกรุกที่ดินทำกิน พร้อมพยายามผลักดันให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของโฉนดกลายเป็น “เหมืองสาธารณะ” โดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดิน

คดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับที่ดินตามโฉนดเลขที่ 13415 เล่ม 135 หน้า 15 เนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ซึ่งครอบครัวของนางเพลินพิศใช้ปลูกข้าวและทำการเกษตรต่อเนื่องมายาวนาน ภายใต้เอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย และมีระวางแผนที่มาตราส่วน 1:4000 ระบุพิกัดอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าของที่ดินพบว่ามี “ภาพโครงการเหมืองสาธารณะ” ปรากฏแทรกซ้อนอยู่ในเอกสารแผนที่โดยไม่ทราบที่มา และไม่เคยได้รับแจ้งหรือขออนุญาตจากเจ้าของ จนนำไปสู่ข้อพิพาทรุนแรงในพื้นที่

นางเพลินพิศ เปิดเผยว่า“ที่ดินแปลงนี้เป็นนาของครอบครัวดิฉันมาแต่เดิม เอกสารสิทธิ์ก็ถูกต้อง เพิ่งทราบภายหลังว่ามีความพยายามจะเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นเหมืองสาธารณะโดยไม่บอกกล่าว ดิฉันจึงเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าแดง”

ด้านรองผู้อำนวยการกองช่าง อบต.ท่าแดง ให้ข้อมูลว่า โครงการเหมืองสาธารณะดังกล่าว “ไม่มีปรากฏอยู่ในแผนพัฒนาท้องถิ่น 5 ปี” ของ อบต. และไม่ทราบว่าภาพแผนที่โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่มีโครงการดังกล่าวในพื้นที่ พร้อมระบุว่าทราบว่ามีกลุ่มชาวบ้านบางรายพยายามผลักดันให้เปลี่ยนสภาพที่ดินของนางเพลินพิศเป็นสาธารณะโดยพลการ

“ก่อนหน้านี้ ดิฉันเคยมอบที่ดินบางส่วนเพื่อขยายถนนเข้าหมู่บ้านมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม แต่ครั้งนี้ถูกบุกรุกพื้นที่นาโดยไม่เคยขัดขวางการพัฒนา และยังมีคนพูดจาไม่เหมาะสมใส่ร้ายอีก” นางเพลินพิศ กล่าว

ข้อพิพาทเริ่มต้นตั้งแต่การรังวัดพื้นที่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 โดยนายธนพงษ์ ทองสรวง ช่างรังวัด ได้เข้าไปทำการรังวัด แต่ถูกเจ้าของที่ดินคัดค้านและขอให้ยกเลิก ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายภาคภูมิ แก่นไชย นายช่างรังวัด ลงพื้นที่อีกครั้ง โดยระบุว่าเป็นการ “สอบเขต” แม้ทางเจ้าของที่ดินจะไม่ยอมรับผลการสอบเขตก่อนหน้านี้ก็ตาม พร้อมพบว่ามีความพยายามจัดทำเอกสารใหม่ให้พื้นที่บางส่วนกลายเป็นเหมืองสาธารณะ ทั้งที่ในโฉนดฉบับออกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2520 ไม่ปรากฏว่าเคยเป็นเหมืองสาธารณะมาก่อน

สาเหตุเบื้องหลังข้อพิพาทนี้ คาดว่ามาจากพื้นที่เหมืองเก่าในบริเวณใกล้เคียงถูกบุกรุกตื้นเขิน จนไม่สามารถระบายน้ำได้ ทำให้บางฝ่ายพยายามสร้างเหมืองสาธารณะใหม่ขึ้นในพื้นที่แปลงของนางเพลินพิศ

นายธนพงษ์ ทองสรวง ให้ข้อมูลว่า การรังวัดสอบเขตครั้งที่สองถูกผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านคัดค้าน เพราะสภาพพื้นที่ไม่สามารถใช้งานเป็นเหมืองได้จริง

ล่าสุด นางเพลินพิศ เตรียมนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมุดแนวเขตตามโฉนดเดิม คืนความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิในที่ดินของครอบครัวจากการบุกรุกและเปลี่ยนสภาพที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม

ข่าว ชุลีพร ตาลสุข