อดีตครูบำนาญพร้อมทนายยื่นฟ้องศาล ขอออกหมุดที่ดินโฉนด หลังถูกบุกรุกอ้าง “เหมืองสาธารณะ”
เพชรบูรณ์ — วันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นางเพลินพิศ ประดับมุข อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญ ชาวอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ หรือ “ทนายอ้วน” ทนายอาสาประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาอำเภอหนองไผ่ เพื่อขอคัดเอกสารสำคัญ ได้แก่ โฉนดที่ดินและเอกสารการยกเลิกการรังวัดครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เตรียมนำไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัด เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมุดแนวเขตที่ดินตามโฉนดเดิม หลังพบว่าพื้นที่ทำนาของครอบครัวถูกรุกล้ำและมีความพยายามเปลี่ยนสภาพเป็น “เหมืองสาธารณะ”
ที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นโฉนดเลขที่ 13415 เล่ม 135 หน้า 15 เนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ซึ่งใช้ทำการเกษตร (ปลูกข้าว) ต่อเนื่องมายาวนาน ถูกต้องตามกฎหมาย และระบุพิกัดในระวาง 1:4000 อย่างชัดเจน แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับปรากฏ “ภาพโครงการเหมืองสาธารณะ” แทรกซ้อนเข้ามาในเอกสารแผนที่อย่างไม่ทราบที่มา จนนำไปสู่ข้อพิพาทในพื้นที่
นางเพลินพิศ เปิดเผยว่า “ที่ดินแปลงนี้เป็นนาของครอบครัวดิฉันมายาวนาน มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่งพบว่ามีภาพเหมืองสาธารณะเข้ารุกล้ำที่โดยมิได้รับความยินยอม จึงได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าแดง เพื่อขอข้อเท็จจริง” ด้านรองผู้อำนวยการกองช่าง อบต.ท่าแดง ชี้แจงว่า
โครงการเหมืองสาธารณะดังกล่าว “ไม่มีอยู่ในแผนพัฒนาท้องถิ่น (แผน 5 ปี)” ของ อบต. และไม่ทราบว่าภาพแบบโครงการดังกล่าวมาจากแหล่งใด ทั้งนี้ อบต. ยืนยันว่าไม่มีโครงการเหมืองฯ ในพื้นที่ และรับทราบว่ามีกลุ่มชาวบ้านบางส่วนพยายามผลักดันให้ที่ดินแปลงของนางเพลินพิศกลายเป็นสาธารณะ
นางเพลินพิศ กล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมาเคยยินยอมมอบพื้นที่บางส่วนเพื่อขยายถนนเข้าหมู่บ้านมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม แต่ครั้งนี้กลับถูกบุกรุกที่นาทำกินโดยพลการ และยังมีบางบุคคลพูดจาไม่เหมาะสม ทั้งที่ดิฉันไม่เคยขัดขวางการพัฒนา”
ประเด็นพิพาทดังกล่าว เริ่มต้นจากการรังวัดในพื้นที่ 2 ครั้ง ครั้งแรก วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายธนพงษ์ ทองสรวง ช่างรังวัด ได้ทำการรังวัด แต่ถูกเจ้าของที่ดินคัดค้านและทำเรื่องยกเลิก
ต่อมา วันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายสันติพงษ์ ศรีโพธิ์ นายช่างรังวัด ได้ลงพื้นที่อีกครั้ง อ้างว่าเพื่อ “สอบเขต” ที่ดินแปลงเดียวกัน แม้เจ้าของที่ดินไม่ยอมรับผลการสอบเขตก่อนหน้า และมีความพยายามจัดทำเอกสารใหม่แสดงเป็นพื้นที่เหมืองสาธารณะ ทั้งที่ในโฉนดที่ดินฉบับออกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2520 ไม่ปรากฏว่ามี “เหมืองสาธารณะ” อยู่เดิม
เบื้องหลังความเคลื่อนไหวครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหมืองเดิมในพื้นที่ใกล้เคียงถูกบุกรุกและตื้นเขิน น้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ ส่งผลให้มีความพยายามสร้างพื้นที่ “เหมืองสาธารณะใหม่” ขึ้นมาแทนนายธนพงษ์ ทองสรวง ยืนยันว่า
เอกสารการรังวัดสอบเขตครั้งที่ 2 ถูกคัดค้านโดยผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านในพื้นที่ ขณะที่สภาพพื้นที่เดิมไม่สามารถใช้งานได้จริง
ทั้งนี้ นางเพลินพิศ ได้เตรียมนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการศาล เพื่อขอให้มีคำสั่ง “ออกหมุดแนวเขตที่ดินโฉนดเดิม” คืนความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิในที่ดินของครอบครัว